สิ่งที่คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทบทุกคนต่างเป็นกังวล นั่นก็คือ “ชุดแบตเตอรี่” ที่ถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านใต้ของตัวรถ เนื่องจากชุดแบตเตอรี่ที่ว่านี้ “มีราคาแพง” ซึ่งหากจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ชุดใหม่ คุณอาจต้องจ่ายเงินเป็นราคามากถึง 50% ของราคารถเลยทีเดียว
หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% หรือใช้งานจนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง
รถยนต์ไฟฟ้าส่วนมากในโลกนี้ จะใช้แบตเตอรี่ประเภทลิเทียม-ไอออน (Lithium iron) ซึ่งมักจะไม่ถูกกับการที่ชาร์จแบตเตอรี่ด้วยเครื่องชาร์จกำลังสูง (DC Fast Charge) จนแบตเตอรี่เต็ม 100% เราขอแนะนำให้ท่านชาร์จปริมาณแบตเตอรี่ให้อยู่ระหว่าง 70% – 90% จะดีที่สุด รวมถึงการใช้งานจนปริมาณแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง ก็เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่ทำให้ชุดแบตเตอรี่ของคุณเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด
ชาร์จแบบช้า (AC Charging) จะช่วยถนอมแบตเตอรี่ได้มากกว่า
การใช้การชาร์จแบบช้า หรือ AC Charging ซึ่งก็คือการใช้ Wall Box ที่มีกำลังไฟไม่เกิน 7 kW จะช่วยลดความร้อนและความเครียดในเซลล์แบตเตอรี่ในเวลาชาร์จ ทำให้สามารถยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้มากกว่า การชาร์จเร็ว (DC Fast Charge) หรือการชาร์จที่สถานีบริการ ซึ่งจะมีกำลังไฟที่มากกว่าหลายเท่าตัว
หากเป็นไปได้ ไม่ควรจอดรถกลางแดดเป็นประจำ
แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน (Lithium iron) ไม่ชอบอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไป ซึ่งในประเทศไทยคงไม่มีสภาวะอากาศเย็นจัดอยู่แล้ว แต่กลับกันประเทศไทยมีสภาพอากาศที่ร้อนจัดแทบจะทั้งปี ซึ่งหากคุณจอดรถยนต์ไฟฟ้าไว้กลางแดดบ่อย ๆ ก็คงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ หากเป็นไปได้ เราอยากให้คุณจอดรถในร่ม จะสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของคุณได้
ไม่ควรปล่อยให้ปริมาณแบตเตอรี่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์
ใครที่ใช้รถไฟฟ้าแล้วชอบปล่อยให้แบตเตอรี่ลดต่ำกว่า 10% หรือบางคนปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงเป็นประจำ การกระทำลักษณะนี้บ่อย ๆ จะทำให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลดลง
อัพเดทซอฟต์แวร์ของรถอยู่เสมอ
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า มักจะมีการอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อปรับปรุงการจัดการพลังงานและระบบการชาร์จอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดอัตราความเสื่อมของตัวแบตเตอรี่ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณหมั่นนำรถเข้าไปอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ
ปรับพฤติกรรมการขับขี่ และเลือกเส้นทางที่เหมาะสม
การขับรถด้วยความเร็วคงที่ และหลีกเลี่ยงการเร่งหรือลดความเร็วบ่อย ๆ รวมถึงการใช้โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECO Mode) จะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และยังช่วยลดการสึกหรอของแบตเตอรี่ได้อีกด้วย
อย่าลืมเข้ามาสัมผัสรถยนต์ของ Great Wall Motor ที่มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ และความสะดวกสบายเหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ ORA, รถยนต์เอสยูวีไฮบริดจากแบรนด์ HAVAL, เอสยูวีสายลุยจากแบรนด์ TANK รวมถึงรถกระบะระดับพรีเมียมจากแบรนด์ POER ได้แล้วที่ GWM Partner Store อมรรัชดา
Location: GWM อมรรัชดา https://maps.app.goo.gl/k2yYTGz3881nZaK38?g_st=ic
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line https://lin.ee/axnS7os?(@gwmamornratchada) โทร. 02 513 8000
