Haval H6 สุดยอดรถ C-SUV ที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าในทุกมิติ ทั้งในเรื่องของสมรรถนะ ดีไซน์ภายนอก – ภายในที่มาพร้อมกับความหรูหรา ออปชั่นช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ รวมถึงฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยตลอดระยะวลาที่ผ่านมา ได้มีการส่งมอบ Haval H6 ทั้งรุ่น HEV และ PHEV ให้กับลูกค้าชาวไทยไปแล้วกว่า 10,000 คัน และเป็นผู้นำในตลาด C-SUV ในประเทศไทย
โดยในปัจจุบัน Haval H6 มีจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นย่อยได้แก่ Haval H6 Ultra (Hybrid) และ Haval H6 PHEV (Plug-in Hybrid) ซึ่งในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกความแตกต่างของรถทั้ง 2 รุ่นนี้ ว่าจะมีออปชั่นและฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจ และมีจุดไหนที่แตกต่างกันบ้าง
ดีไซน์ภายนอก – ภายใน Haval H6 HEV และ Haval H6 PHEV
เริ่มกันที่ดีไซน์ทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งรถทั้ง 2 รุ่นแทบจะเหมือนกันทั้งหมด 100% ทั้งดีไซน์ภายนอกและภายใน แต่ก็จะมีจุดที่มีความแตกต่างกันเล็กน้อยก็คือ ช่องชาร์จไฟบริเวณด้านหลังขวาของตัวรถในรุ่น PHEV (รุ่น HEV จะไม่มีช่องชาร์จไฟ) รวมถึงป้ายสัญลักษณ์ HEV และ PHEV ที่ติดอยู่บริเวณฝาท้ายของรถ Haval H6 ทั้งสองรุ่นออปชั่นช่วยเหลือการขับขี่
สำหรับ Haval H6 ทั้ง 2 รุ่นจะได้ออปชั่นช่วยเหลือการขับขี่ที่เหมือนกันทุกอย่าง โดยมีออปชั่นไฮไลท์ดังนี้- ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA), ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) และระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และ ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (LSEB) และ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)
- ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW)