เกรท วอลล์ มอเตอร์?ในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company)?เปิดเผยความสำเร็จในการพัฒนาของแบรนด์ พร้อมประกาศทิศทางในการพัฒนาในอนาคต สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานอย่างมั่นคงบนแนวคิดระบบนิเวศยานยนต์บนโลกที่ไร้พรมแดน (Ecological Globalization)?ครอบคลุมทั้งในด้านการวิจัย ด้านการผลิต และด้านการขาย พร้อมเปิดตัวรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีระดับโลก ไฮไลท์สุดพิเศษ?4?รุ่น ได้แก่?GWM TANK 700 Hi4-T?รถยนต์ออฟโรดระดับพรีเมียมรุ่นเรือธง และ?GWW SAHAR POER Hi4-T?รถกระบะออฟโรดขุมพลังไฮบริดระดับพรีเมียมคันแรกของโลก เสริมทัพด้วย?GWM HAVAL H6?4th Generation?รถยนต์คอมแพคเอสยูวีขวัญใจชาวโลกในโฉมใหม่ การันตีด้วยยอดขายติดอันดับทั่วโลกอยู่ใน?10?อันดับแรกในกลุ่มรถยนต์คอมแพคเอสยูวีเป็นระยะเวลา?5?ปีซ้อน และ?GWM WEY 80?ที่สุดของรถสำหรับทุกคนในบ้านอย่างแท้จริง มาพร้อมฟังก์ชันและความหรูหราแบบครบครัน ที่งานปักกิ่ง ออโต้โชว์ ครั้งที่?18
มร.?มู่ เฟิง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์?กล่าวว่า??เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยืนยันที่จะพัฒนาสู่ระดับโลกโดยยึดรากฐานจากประเทศจีน ควบคู่ไปกับการพัฒนาให้สอดคล้องกับตลาดต่างประเทศ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนากลยุทธ์การส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ เปลี่ยนแนวคิดจากการส่งออกสินค้า เป็นการค้าต่างประเทศ พร้อมพัฒนาต่อยอดสู่แนวคิดระบบนิเวศยานยนต์บนโลกที่ไร้พรมแดน ยิ่งไปกว่านั้น เรายังคงยึดมั่นในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในตลาดแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านการส่งเสริมการขาย ด้านการผลิต ด้านการดำเนินธุรกิจ ด้านวัฒนธรรมองค์กร และด้านการสร้างห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่มีคุณภาพในระดับโลก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ทำการพัฒนาในตลาดต่างประเทศมามากกว่า?20?ปี จนถึงจุดสำเร็จ?และได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์คุณภาพภายใต้แบรนด์อย่างเช่น?GWM TANK?และ?GWM ORA?ในตลาดต่างประเทศ สะท้อนผลสำเร็จของแนวคิดระบบนิเวศยานยนต์บนโลกที่ไร้พรมแดนได้อย่างมีนัยสำคัญ?
ในงานปักกิ่ง ออโต้โชว์ ครั้งที่?18?นี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ขนทัพรถยนต์อัจฉริยะหลากหลายรุ่น พร้อมไฮไลท์สุดพิเศษรวม?4?รุ่น?และนวัตกรรมยานยนต์สุดล้ำมาจัดแสดง สะท้อนภาพความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมไฟฟ้าแห่งอนาคต
ประเดิมด้วยการเปิดตัว?GWM TANK?700?Hi4-T?รถออฟโรดระดับพรีเมียมที่ผสมผสานสมรรถนะอันแข็งแกร่งและความหรูหราเหนือระดับได้อย่างลงตัว ด้วยเทคโนโลยีไฮบริดขั้นสูงเพื่อสร้าง “ความพึงพอใจของผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง? สู่ความโดดเด่นและแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ไฮบริดอื่น ๆ ในระดับโลก พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ขั้นสูงสุดให้กับไลฟ์สไตล์ของนักผจญภัยสายลุยและไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างตรงจุด ด้วยขนาดที่ยาวกว่า?5?เมตร และกว้างมากกว่า?2?เมตร จึงทำให้พร้อมกับการผจญภัยทุกรูปแบบ มาพร้อมระบบการขับเคลื่อนสี่ล้อ?3.0T Hi4-T?ซึ่งเป็นการออกแบบโครงสร้างเครื่องยนต์เพียงหนึ่งเดียวในประเทศจีนที่สามารถรองรับพละกำลังของรถยนต์ไฮบริดขนาดใหญ่ ร่วมด้วยการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์หลายสูบที่มีความจุสูงและมอเตอร์ไฟฟ้า?P2?ที่มีพลังงานสูง ให้กำลังรวมสูงสุด?385?กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด?800?นิวตันเมตร (850?นิวตันเมตร สำหรับรุ่น?Limited Edition)?และอัตราเร่ง?0-100?กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาไม่ถึง?5?วินาที อีกทั้งยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกเส้นทางมากถึง?12?โหมด และสามารถลุยน้ำได้สูงสุดถึง?970?มิลลิเมตร จึงสามารถตอบสนองทุกความต้องการของผู้ขับขี่ในทุกเส้นทางและทุกสถานการณ์ นอกจากสมรรถนะที่โดดเด่นแล้ว ภายในของ?GWM TANK?700?Hi4-T?ยังถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่อย่างหรูหราและเหนือระดับ เบาะนั่ง?Light Cloud?ทำจาก หนัง?BADER??NAPPA?จากเยอรมนี มุมกว้างพิเศษ ออกแบบให้เข้ากับสรีระของร่างกายเพื่อสร้างความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้ขับขี่ราวกับนั่งบนปุยเมฆ เบาะด้านหน้าสามารถปรับระดับได้ถึง?156?องศา และ?141?องศาสำหรับเบาะด้านหลัง ที่วางขาสามารถปรับได้?2?ทิศทาง ที่ดันหลังปรับได้?4?ทิศทาง ระบบระบายอากาศของเบาะปรับได้?3?ระดับ พร้อมระบบปรับอากาศ?9?ระดับ ร่วมกับระบบเสียงจาก?Harman Kardon?ที่มาพร้อมลำโพง?16?ตัวที่สร้างความละเอียดเสียงระดับ?Hi-Fi (High Fidelity)?ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้ก้าวไปอีกขั้น ผ่านทุกรายละเอียดที่สร้างสรรค์ไว้อย่างประณีตในทุกแง่มุม นอกจากนี้?GWM TANK?700?Hi4-T?ยังมีระบบเก็บเสียงที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยการผนึกประตูข้างถึง?3?ชั้น และประตูด้านหลังถึง?2?ชั้น พร้อมกับกระจกที่ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกหนา?5?มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับระบบลดเสียงของ?Harman Kardon?ทำให้ห้องโดยสารเงียบแม้จะขับขี่ที่ความเร็วสูงถึง?199?กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ตาม
GWM SAHAR POER Hi4-T?กับคำนิยาม??รถกระบะออฟโรดขุมพลังไฮบริดระดับไฮเอนด์ลักซ์ชัวรี่คันแรกของโลก มาพร้อมกับ?GWM Hi4-T Off-road Super Hybrid Architecture?ที่พัฒนาโดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ เทียบเท่ากับรถยนต์แบรนด์หรูที่ระดับราคา?8?แสนหยวน (ประมาณ?4?ล้านบาท) ขึ้นไป เป็นการผสมผสานทั้งพลังงานน้ำมันและพลังงานไฟฟ้าเข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้ที่ติ ด้วยเครื่องยนต์ที่มีเสถียรภาพและมอเตอร์ที่มีความแข็งแกร่ง จึงมอบพละกำลังและอัตราเร่งที่ดีเยี่ยมทั้งบนการขับขี่ทางเรียบและออฟโรด ร่วมกับการลดการใช้พลังงานน้ำมันและพลังงานไฟฟ้าถึงสองเท่า นอกจากนี้?GWM SAHAR POER Hi4-T?ยังมาพร้อมกับระบบส่งกำลังที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์?2.0T?เกียร์?9HAT?และมอเตอร์ไฟฟ้า?P2?ให้กำลังรวมสูงสุด?300?กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด?750?นิวตันเมตร และอัตราเร่ง?0-100?กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน?7.15?วินาที ร่วมกับโหมดการขับขี่ถึง?3?โหมด ได้แก่ โหมดไฟฟ้าล้วน โหมดไฮบริด และโหมดอัจฉริยะ โดยเมื่อระดับแบตเตอรี่อยู่ต่ำกว่า?13.5%?ระบบจะเปลี่ยนเป็นไฮบริดโดยอัตโนมัติ และเมื่ออยู่ในระบบไฮบริดและแบตเตอรี่ต่ำกว่า?10%?รถจะเปลี่ยนเป็นการขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์โดยอัตัโนมัติและทำการชาร์จพลังงานเข้าแบตเตอรี่ นอกจากนี้?GWM SAHAR POER Hi4-T?สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนในระยะสูงถึง?100?กิโลเมตร โดยในการขับขี่ทางไกล อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานจะมีประสิทธิภาพมากถึง?2.5?ลิตรต่อ?100?กิโลแมตรเลยทีเดียว โดยสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง?780?กิโลเมตร ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า?P2?ที่สามารถให้กำลังสูงสุด?120?กิโลวัตต์ต่อ?400?นิวตันเมตร ให้ประสิทธิภาพมากกว่า?96%?ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะแรงกดอากาศสูงและอุณหภูมิต่ำ สู่การยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมรถกระบะไปอีกขั้นให้แตกต่างไปจากเดิม
ต่อด้วยรถยนต์ที่สามารถครองอันดับยอดขายทั่วโลกอยู่ใน?10?อันดับแรกในกลุ่มรถยนต์คอมแพคเอสยูวีเป็นระยะเวลา?5?ปีซ้อน และยังคงรักษาความพึงพอใจของลูกค้าได้สูงสุดเป็นเวลา?9?ปี อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจและกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้ามากกว่า?4?ล้านรายทั่วประเทศอย่าง?GWM HAVAL H6?รถยนต์เอสยูวีที่สามารถเข้ากับสถานการณ์ได้อย่างหลากหลายและสามารถมอบประสบการณ์ครบวงจรสำหรับการเดินทางของครอบครัวของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว?GWM HAVAL H6?ในเจนเนอเรชัน?4?นี้ ได้รับการเปลี่ยนโฉมใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์??Star River Aesthetics??หรือความพลิ้วไหวของสายน้ำและดวงดาว แต่ยังคงนำความโดดเด่นของรถยนต์ในเจนเนอเรชันที่?3?ไว้ได้อย่างครบถ้วน มอบความสวยงาม สะดวกสบาย และความสุนทรีแห่งอนาคตให้กับผู้ขับขี่ตลอดทั้งเส้นทาง?ด้วยเทคโนโลยีที่ทรงพลังกว่าเดิมด้วยระบบส่งกำลัง?2?ระบบ ได้แก่?1.5T?และ?2.0T?โดยระบบส่งกำลัง?1.5T?ใช้เครื่องยนต์?4B15L?ทำงานร่วมกับเกียร์?7DCT?ที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้น ส่วนระบบส่งกำลัง?2.0T?ใช้เครื่องยนต์ทรงพลัง?4N20A?ทำงานร่วมกับเกียร์?9DCT?ขับเคลื่อนสี่ล้อที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะของ?BorgWarner?พร้อมการขับขี่?6?โหมด และมีระบบตอบสนองหลายภูมิประเทศ โดย?GWM HAVAL H6?มีพละกำลังที่มากขึ้น ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น ด้านเทคโนโลยีมาพร้อมแพลตฟอร์มอัปเกรดจาก?Coffee Intelligence?เป็น??Coffee AI??ที่เพิ่มความสะดวกสบายและให้ผู้ขับขี่สามารถสนทนากับระบบได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึง?Coffee Pilot?ที่จะปรับเปลี่ยนตามลักษณะการท่องเที่ยวของผู้ขับขี่ในรูปแบบต่าง ๆ สร้างการขับขี่ที่มีความอัจฉริยะและประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้กับทุกคนในครอบครัว
และ?GWM WEY 80?รถยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มครอบครัวได้อย่างครอบคลุมทั้งความสะดวกสบายและความหรูหรา มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่จะมอบความรู้สึกเหมือนกับบ้านหลังที่สองให้กับผู้ขับขี่ การออกแบบภายในที่รองรับสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้เป็นอย่างดีเพื่อสร้างความผ่อนคลายและการพักผ่อนทั้งทางร่างกาย และทางจิตใจให้กับทุกคนในครอบครัว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับตู้เย็นขนาดใหญ่สองประตูภายในรถยนต์ โดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยประตูตู้เย็นที่สามารถเปิดได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ร่วมกับระบบควบคุมอุณหภูมิสองโหมด ได้แก่ โหมดทำความเย็น (0-15?องศาเซลเซียส)?และโหมดทำความร้อน (35-50?องศาเซลเซียส)?มาพร้อมปริมาณความจุที่ให้มาถึง?12.5?ลิตร มอบความสะดวกสบายแบบเหนือระดับยิ่งกว่าใคร อีกทั้งระบบเสียง?Harman Kardon?ที่มาพร้อมลำโพงรอบทิศทางมอบประสบการณ์เสียงในรูปแบบใหม่ ๆ เสมือนกับนั่งฟังในโรงละครโอเปร่า นอกจากนี้?GWM WEY 80?ยังมอบความเงียบในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี เมื่อความเร็วอยู่ที่?120?กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงห้องโดยสารจะถูกควบคุมอยู่ที่?65?เดซิเบล ควบคู่กับเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนของเครื่องยนต์?(HALOSonic EOC)?ให้ตลอดทั้งเส้นทางไร้ซึ่งสิ่งรบกวนสู่ประสบการณ์การขับขี่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น?GWM WEY 80?ยังมาพร้อมกับเครื่องฟอกอากาศระบบพลาสมา ระบบทำความสะอาดอากาศในห้องโดยสารอัจฉริยะ?Volvo Air Quality System (AQS)?และม่านบังแดดสำหรับแถวที่?2?และ?3?อีกด้วย นับว่าเป็นรถยนต์ที่มอบความสะดวกสบายผ่านเทคโนโลยีเหนือระดับได้อย่างลงตัว
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงเดินหน้าเพื่อส่งเสริมแนวคิดระบบนิเวศยานยนต์บนโลกที่ไร้พรมแดน?(Ecological Globalization)?ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการพัฒนาแบรนด์ในระดับโลก ครอบคลุมทั้งในด้านการวิจัย ด้านการผลิต และด้านการขาย ในปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้จัดตั้งฐานการผลิตยานยนต์แบบเต็มรูปแบบในประเทศไทยและในบราซิล และมีโรงงานแบบ?KD?ในปากีสถาน เอกวาดอร์ และประเทศอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการวิจัยและการผลิตสินค้า รวมถึงนำผลิตภัณฑ์ไปสู่ผู้บริโภคทั่วโลก ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและวิถีการขับขี่ของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาคได้อย่างเหมาะสม การตั้งสายการผลิตยานยนต์ในพื้นที่ท้องถิ่น ไม่เพียงแต่ส่งผลให้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ สามารถแข่งขันทางด้านราคาในตลาดนั้น ๆ ได้ แต่ยังมีส่วนในการสร้างอาชีพให้กับประชากร สร้างรายได้ในประเทศนั้น ๆ ควบคู่ไปกับการสะท้อนความรับผิดชอบต่อสังคมในประเทศที่
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เข้าไปตั้งฐานการผลิตอยู่