รถยนต์เป็นพาหนะที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการขับขี่ ซึ่งระบบเกียร์ถือเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อสมรรถนะโดยรวมของรถยนต์ ระบบเกียร์ DHT (Dedicated Hybrid Transmission) ที่ถูกนำมาใช้ในรถ Haval H6 และ Haval Jolion ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่น่าจับตามอง เพราะระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถในการขับขี่และประหยัดพลังงาน บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักระบบเกียร์ DHT ให้มากขึ้น รวมถึงหลักการทำงาน ความแตกต่างจากเกียร์ทั่วไป และข้อดีที่ทำให้ระบบเกียร์ DHT มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
ระบบเกียร์ DHT คืออะไร?
DHT หรือ Dedicated Hybrid Transmission เป็นระบบเกียร์ที่พัฒนาและออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้งานร่วมกับเครื่องยนต์แบบไฮบริด ระบบนี้มีจุดเด่นที่สามารถสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น ซึ่งช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพ ระบบเกียร์ DHT นี้มีทั้งเกียร์แบบ single-speed และ multi-speed ซึ่งถูกปรับให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าในรถยนต์ไฮบริด เพื่อให้สามารถถ่ายโอนพลังงานได้ดีที่สุด
ในขณะที่ระบบเกียร์ทั่วไป เช่น เกียร์อัตโนมัติ CVT (Continuously Variable Transmission) หรือเกียร์อัตโนมัติแบบ AT (Automatic Transmission) ต้องใช้กลไกที่ซับซ้อนในการสลับเปลี่ยนเกียร์ ระบบ DHT ถูกออกแบบให้สามารถเชื่อมโยงการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้โดยตรง ส่งผลให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานสูงกว่า
หลักการทำงานของระบบเกียร์ DHT
ระบบเกียร์ DHT มีการทำงานที่เรียกว่า Multi-mode Operation โดยสามารถปรับการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ที่แตกต่างกัน ระบบจะเลือกโหมดการขับเคลื่อนที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เช่น
- การขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า: ในความเร็วต่ำหรือเมื่อมีการออกตัว ระบบเกียร์ DHT จะใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและลดมลพิษ
- การขับขี่ด้วยเครื่องยนต์: เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น ระบบจะเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์เพื่อเพิ่มแรงขับและประหยัดพลังงานในการเดินทางระยะไกล
- การทำงานแบบไฮบริด: ในช่วงที่ต้องการอัตราเร่งสูง ระบบจะทำงานทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าร่วมกัน เพื่อให้ได้สมรรถนะสูงสุด
นอกจากนี้ ระบบเกียร์ DHT ยังมีการออกแบบให้สามารถชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ขณะขับขี่ เพื่อเพิ่มระยะทางการใช้งานโดยไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอกเสมอไป การทำงานแบบ Multi-mode นี้ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
ความแตกต่างระหว่างเกียร์ DHT กับเกียร์ทั่วไป
สิ่งที่ทำให้เกียร์ DHT โดดเด่นกว่าระบบเกียร์ทั่วไปคือ ความสามารถในการสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูง ต่างจากเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT หรือ AT ที่ต้องใช้กลไกที่ซับซ้อนและใช้พลังงานมากกว่าในการสลับเปลี่ยนระหว่างเกียร์ ระบบ DHT สามารถควบคุมการถ่ายโอนกำลังได้โดยไม่ต้องพึ่งพากลไกแบบทั่วไป นอกจากนี้ DHT ยังลดการสึกหรอของเกียร์ และลดการสูญเสียพลังงาน ทำให้มีความคุ้มค่าทั้งในเรื่องการประหยัดน้ำมันและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
ทำไมระบบเกียร์ DHT ถึงมีประสิทธิภาพ?
เหตุผลที่ระบบเกียร์ DHT มีประสิทธิภาพสูงคือ การใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วยเสริมการขับเคลื่อน ในช่วงที่เครื่องยนต์ต้องการกำลังสูง เช่น ช่วงออกตัวหรือช่วงที่ต้องการอัตราเร่ง ระบบ DHT จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยในการขับเคลื่อน ทำให้ลดการใช้น้ำมันและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ นอกจากนี้ ระบบ DHT ยังถูกออกแบบให้มีอัตราทดที่เหมาะสมกับการใช้งานแบบไฮบริด ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างราบรื่นและให้สมรรถนะที่ดีในทุกความเร็ว
นอกจากความประหยัดน้ำมันและความนุ่มนวลแล้ว ระบบ DHT ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ เนื่องจากสามารถปรับโหมดการทำงานอัตโนมัติตามสถานการณ์ เช่น เมื่อขับในสภาพการจราจรที่หนาแน่น ระบบจะเน้นการใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อลดการปล่อยมลพิษ และเมื่อออกทางไกลจะเน้นการใช้เครื่องยนต์เพื่อเพิ่มระยะทางขับขี่
ข้อดีของระบบเกียร์ DHT
ระบบเกียร์ DHT มีข้อดีหลายประการที่ทำให้มันเหนือกว่าระบบเกียร์ทั่วไป:
- ประหยัดพลังงาน: ระบบ DHT ช่วยลดการใช้น้ำมันเนื่องจากสามารถสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ขับขี่นุ่มนวล: การเปลี่ยนเกียร์และการถ่ายโอนกำลังทำได้อย่างราบรื่น ลดอาการสะดุดระหว่างการขับขี่
- ลดการปล่อยมลพิษ: ระบบสามารถใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในช่วงการขับขี่ที่ความเร็วต่ำหรือในช่วงออกตัว ซึ่งลดการปล่อยมลพิษจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง
- ยืดอายุการใช้งาน: การทำงานของระบบเกียร์ที่นุ่มนวลและไม่ซับซ้อนช่วยลดการสึกหรอของเกียร์ และช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบ
- ตอบสนองดีในทุกสภาวะการขับขี่: ระบบเกียร์ DHT ถูกออกแบบให้ตอบสนองต่อสภาพการขับขี่ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือบนทางด่วน ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น
เกียร์ DHT ใน Haval H6 และ Haval Jolion: สมรรถนะและประสิทธิภาพที่โดดเด่น
ระบบเกียร์ DHT ที่ถูกนำมาใช้ในรถ Haval H6 และ Haval Jolion เป็นการยืนยันถึงความทันสมัยและการพัฒนาเทคโนโลยีด้านระบบเกียร์ที่เหนือชั้น รถทั้งสองรุ่นนี้ได้แสดงให้เห็นถึงการผสานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสูง ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น ประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยมลพิษ ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะไกลได้อย่างยอดเยี่ยม
สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ที่ไม่เพียงแค่ให้สมรรถนะดีเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานและมีระบบเกียร์ที่อัจฉริยะ ระบบเกียร์ DHT ใน Haval H6 และ Haval Jolion นับเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ตอบสนองการขับขี่ที่ครบเครื่องทั้งความแรง ความนุ่มนวล และความประหยัด ทำให้รถทั้งสองรุ่นนี้โดดเด่นในตลาดรถยนต์ไฮบริดปัจจุบัน
อย่าลืมเข้ามาสัมผัสรถยนต์ของ Great Wall Motor ที่มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ และความสะดวกสบายเหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ ORA, รถยนต์เอสยูวีไฮบริดจากแบรนด์ HAVAL, เอสยูวีสายลุยจากแบรนด์ TANK รวมถึงรถกระบะระดับพรีเมียมจากแบรนด์ POER ได้แล้วที่ GWM Partner Store อมรรัชดา
ลงทะเบียนทดลองขับ คลิก !!
Location: GWM อมรรัชดา https://maps.app.goo.gl/k2yYTGz3881nZaK38?g_st=ic
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line : https://lin.ee/axnS7os (@gwmamornratchada)
โทร. 02 513 8000