ไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน

ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเทรนด์ยานพาหนะของโลกกำลังมุ่งสู่รถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า หรือที่เรียกว่ารถยนต์ EV เนื่องจากเหตุผลด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดกระบวนการสันดาปที่เป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รถยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับหลายคนที่มีแผนซื้อรถคันใหม่

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในปัญหาที่หลายคนยังคงกังวลเกี่ยวกับรถยนต์ EV คือเรื่องการชาร์จไฟ เนื่องจากสถานีชาร์จไฟในที่สาธารณะยังไม่ครอบคลุมเพียงพอ จึงอาจส่งผลให้เกิดอุปสรรคในการใช้งานจริง ดังนั้นแนวทางที่ตอบโจทย์ที่สุดคือการชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน และถ้าหากยังไม่มีข้อมูล ไม่รู้ว่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหรือไม่ บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยให้กระจ่าง ติดตามได้เลย

ต้องเตรียมอะไรบ้าง ก่อนติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน

หากตัดสินใจได้แล้วว่าอยากซื้อรถยนต์ EV และต้องการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน สิ่งแรกที่ต้องทำคือเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าให้มีกำลังสูงขึ้นอย่างน้อย 30 แอมป์ (A) เพิ่มขนาดสายไฟในบ้านเป็น 25 ตารางมิลลิเมตร และเครื่องตัดวงจรไฟฟ้าขนาดเล็ก (MCB) เป็น 100 แอมป์ (A) เนื่องจากการชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านจำเป็นต้องใช้กำลังไฟฟ้าที่สูงขึ้นพอสมควร

นอกจากนี้ ควรที่จะติดตั้งเซอร์กิตเบรกเกอร์ (แนะนำขั้นต่ำที่ 40 แอมป์) 1 ช่องใน Main Distribution Board (MDB) เพื่อแยกเมื่อใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ รวมถึงควรติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว Residual Current Device (RCD) เพื่อป้องกันการช็อตในกรณีที่ไฟฟ้าลัดวงจร ใช้ซ็อกเก็ต EV เพื่อเสียบอะแด็ปเตอร์ชาร์จไฟในรถเข้ากับปลั๊กของรถแต่ละรุ่น และสุดท้ายเพื่อความปลอดภัย ต้องแยกวงจรสายไฟของจุดชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านสำหรับ EV ซึ่งควรจะติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญการเท่านั้น

งบประมาณในการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน

ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่สุดสำหรับการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านคือค่าเครื่อง EV Charger ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อ รวมถึงขนาดของกำลังไฟที่ต้องการ ซึ่งควรเลือกใช้ให้สอดคล้องกับ On Board Charger ของรถยนต์แต่ละรุ่น ด้วยเหตุนี้ ราคาของ EV Charger

ในท้องตลาดประเทศไทยจึงมีตั้งแต่ 30,000 บาท ไปจนถึง 80,000 บาท และสูงสุดอาจอยู่ที่ระดับแสนต้น ๆ ดังนั้นจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ เพื่อให้การลงทุนครั้งนี้คุ้มค่าที่สุด

นอกจากค่าเครื่อง EV Charger แล้ว ค่าใช้จ่ายอีกหนึ่งก้อนที่ต้องจ่ายหากต้องการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านคือค่าเปลี่ยนมิเตอร์ ที่ต้องชำระให้แก่การไฟฟ้าที่มาดำเนินการเปลี่ยนให้ ซึ่งราคาจะอยู่ 700-2,500 บาท รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินสายไฟและค่าเซอร์กิตเบรกเกอร์ที่อาจต้องซื้อใหม่เพื่อให้รองรับกับกำลังไฟที่เพิ่มมากขึ้น

ชาร์จไฟรถไฟฟ้า Ora Good Cat ที่บ้านใช้เวลาเท่าไหร่?

แน่นอนว่ารถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น และ EV Charger แต่ละยี่ห้อ ก็ย่อมแตกต่างกันไปในแง่ความจุของแบตเตอรี่ รวมถึงความเร็วในการชาร์จไฟฟ้า ด้วยเหตุนี้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มจึงไม่ตายตัว อย่างไรก็ตามเราขอยกตัวอย่าง เช่น Ora Good Cat ซึ่งจะเวลาชาร์จไฟดังต่อไปนี้
? การชาร์จที่บ้านแบบปกติ (AC) ผ่าน GWM HOME CHARGER ใช้เวลา 8-10 ชั่วโมง
? สถานีชาร์จด่วน (DC Charging) ตัวอย่างเช่น สถานีชาร์จ G-Charge Supercharging Station, EA Anywhere หรือ Pea จะใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-80% ราวๆ 45-60 นาที

หมายเหตุ : ระยะเวลาที่ใช้ชาร์จไฟ ขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่ และสถานีชาร์จที่ให้บริการ

ชาร์จไฟรถไฟฟ้า Ora Good Cat ที่บ้านต้องชาร์จบ่อยแค่ไหน?

ความถี่ในการชาร์จคือหนึ่งในปัจจัยหลักสำหรับหลายคนในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ EV ซึ่งสามารถตอบได้โดยการนำระยะทางที่แบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟเต็ม มาหารกับระยะทางที่วิ่งเฉลี่ยในแต่ละวัน โดย Ora Good Cat 500 Ultra สามารถวิ่งได้ระยะทางราวๆ 450-500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ขึ้นแยู่กับสภาพแวดล้อมและการขับขี่) ดังนั้นถ้าโดยเฉลี่ยคุณขับรถวันละ 30 กิโลเมตร ความถี่ในการชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านก็อาจอยู่ที่ สองสัปดาห์/1 ครั้ง

เมื่อเปรียบเทียบค่าน้ำมัน พบว่าค่าชาร์จ EV ถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด ค่าน้ำมันเฉลี่ย 1.50-3 บาท/กม. ส่วนค่าชาร์จ EV เฉลี่ย 0.26-0.50 บาท/กม. นี่จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการลงทุนครั้งหนึ่งเพื่อประหยัดในระยะยาวเช่นกัน

หากกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช่ ต้องที่ GWM AMORN Ratchada

พิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Ora Good Cat ที่โชว์รูม GWM AMORN Ratchada คุณจะได้รับ GWM HOME CHARGER มูลค่า 60,000 บาท พร้อมกับการรับประกันยาวนานถึง 2 ปี และคุณจะได้รับอุปกรณ์ส่วนควบอื่นๆไม่ว่าจะเป็น ตู้คอนซูมเมอร์, เซอร์กิตเบรกเกอร์, เครื่องตัดไฟรั่ว (RCB), สายไฟและแท่งกราวน์ ติดตั้งโดยทีมช่างมากประสบการณ์จาก Evolt ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ?ฟรี? ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

นอกจากรถไฟฟ้า GWM อย่าง Ora Good Cat ที่โชว์รูมของเรายังมีรถยนต์ GWM ให้สัมผัสและทดลองขับขี่หลากหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น Haval H6 , Haval Jolion และรถปลั๊กอินไฮบริดที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้อย่าง Haval H6 PHEV ก็มีรถคันจริงให้ได้เข้ามาสัมผัสเช่นเดียวกัน ซึ่งคุณสามารถเข้ามาชมและสัมผัสเทคโนโลยีและสมรรถนะของรถยนต์ GWM พร้อมบริการทดลองขับได้ที่ศูนย์ GWM Amorn Ratchada สำหรับผู้ที่สนใจหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายขาย : 02-5138000 / ฝ่ายบริการ : 02-5138800 รวมถึงช่องทางออนไลน์ของเรา

Facebook Fanpage : GWM AMRON Ratchada
Line Official : @gwmamornratchada