Welcome to GWM AMORN RATCHADA
International Showroom

Welcome to
GWM AMORN RATCHADA
International Showroom

Test Drive Click

ลงทะเบียน Test Drive
(สอบถามข้อมูล)

Test Drive TANK 300

ลงทะเบียน Test Drive
(สอบถามข้อมูล)

Test Drive TANK 300

TANK 300: ปลุกเร้าความแกร่งหรู SUV พรีเมียม ลุยโหด ครบครัน

TANK 300 ระบบลุยโหด, เทคโนโลยีช่วยขับขี่, ท้าทายทุกเส้นทาง

ราคาจำหน่าย

รุ่น PRO ราคา 1,649,000 บาท
รุ่น ULTRA ราคา 1,799,000 บาท

TANK 300

All New GWM TANK 300 รถยนต์พรีเมียมเอสยูวีภายใต้แบรนด์ GWM TANK มีความโดดเด่นด้านดีไซน์และสมรรถนะ ให้ภาพลักษณะที่ทันสมัยไม่เหมือนใคร ตอบโจทย์การใช้งานในเมือง มีความคล่องตัว ความสะดวกสบายและความปลอดภัยครบครัน อีกทั้งให้ความมั่นใจเมื่อเดินทางออกนอกเมืองและต้องผ่านอุปสรรคบนเส้นทางที่ลำบากเพื่อให้ถึงจุดหมายที่อยากจะไป

TANK 300 (5)
TANK 300 (1)

การออกแบบภายนอก (Exterior Design)

All New GWM TANK 300 ออกแบบภายใต้แนวคิดของ “แฟชั่น นำสมัย และแข็งแกร่ง”ด้วยการผสมผสานดีไซน์แบบออฟโรดเข้ากับดีไซน์ BOXY ให้ความโดดเด่นและแปลกตาตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้ายด้วยกระจังหน้าดีไซน์ rectangle ตัดขอบด้วยสี piano black ที่รวมการจัดเรียงของไฟหน้าทรงกลมตัด DRL ทรงเหลี่ยมผสานเเข้ากับตัวรถ รับด้วยช่องระบายอากาศสี piano black และโลโก้ TANK เพิ่มความเท่ด้วยกันชนดีไซน์ออฟโรดร่วมสมัย บังโคลนขนาดใหญ่ และบันไดข้าง รับดีไซน์ด้านหลังแบบออฟโรดด้วยประตูท้ายแบบ horizontal ยางอะไหล่ติดตั้งบนประตูท้าย พร้อมกล้องมองหลังที่ซ่อนอยู่บนฝาครอบยางอะไหล่ได้อย่างลงตัว

  • ไฟหน้า Intelligent LED ดีไซน์โดดเด่น ให้ความสว่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยในทุกเส้นทาง ด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow me home) พร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอก LED
  • ไฟท้าย Vertical LED ดีไซน์โดดเด่นในแนวตั้ง มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟตัดหมอก LED ตอบโจทย์ทั้งแฟชั่นและฟังก์ชัน ให้ความสว่างชัดเจนเพื่อความปลอดภัย
  • หลังคาซันรูฟแบบเปิด ปิดด้วยระบบไฟฟ้า มาพร้อมราวหลังคาเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน และเสาอากาศแบบ shark fin
  • ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีดำ พร้อมยาง A/T ขนาด 265/65 R17 มอบความแข็งแกร่งและการขับขี่ที่มั่นใจในทุกเส้นทาง

มิติตัวรถขนาดกว้างขวาง ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถ มิติตัวรถ 1,930 x 4,760 x 1,903 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,750 มม. ให้พื้นที่เก็บสัมภาระ 1635 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวที่ 2

การออกแบบภายใน (Interior Design)

All New GWM TANK 300 ออกแบบภายในสไตล์ Premium off-road ที่ให้ความรู้สึกหรู ทันสมัย กว้างขวาง สะดวกสบาย และใส่ใจในทุกรายละเอียด ด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติด้านหน้าแยกอิสระซ้ายและขวา เบาะหนัง NAPPA ลำโพง Infinity พร้อมซับวูฟเฟอร์ และการตกแต่งห้องโดยสารด้วย Ambient Light ให้ความเพลิดเพลินในทุกช่วงเวลาการขับขี่

  • การเชื่อมต่อของหน้าจอทั้ง 2 ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและปลอดภัย
  • หน้าจอมัลดิมีเดียแบบสัมผัส ขนาด 13 นิ้ว รองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth
  • หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ขนาด 13 นิ้ว
  • ระบบความบันเทิงพร้อมลำโพง Infinity จำนวน 8 ตำแหน่งพร้อมซับวูฟเฟอร์
  • พวงมาลัยไฟฟ้า และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) เพิ่มความสะดวกสบายและคล่องตัวในการขับขี่ พร้อมสวิตช์ควบคุมโหมดการขับขี่
  • ไฟตกแต่งห้องโดยสารพร้อมฟังก์ชันแบบหลากสี ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้คุณเพลิดเพลินในทุกการขับขี่และการผจญภัย
  • นาฬิกาแบบคลาสสิก เพิ่มความหรูหราให้กับห้องโดยสารได้อย่างลงตัว
  • เบาะนั่งปรับไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้าเบาะคนขับ ระบบดันหลังไฟฟ้าเบาะคนขับ ระบบระบายอากาศและเบาะหนัง NAPPA เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat เพื่อความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงจากรถ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
  • เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 พร้อมพนักพิงปรับ 2 ระดับ เพิ่มความสะดวกสบายอีกระดับ 
  • พื้นที่ห้องโดยสารอเนกประสงค์ มากประโยชน์ใช้สอยด้วยห้องโดยสารและที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ เบาะนั่งโดยสารแถวที่ 2 สามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่และความสะดวกในการจัดเก็บสัมภาระ
  • แผงควบคุมที่คอนโซลกลาง พร้อมฟังก์ชันควบคุมการขับขี่แบบออฟโรด ช่วยให้การปรับเปลี่ยนการขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย
  • เกียร์แบบ Electronic Shifter ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9HAT) ชุดเกียร์ไฟฟ้า ดีไซน์หรู สีเดียวกับแผงคอนโซล
  • ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อถึงความเร็วที่กำหนด ระบบกุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เพิ่มความสะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหากุญแจ
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 และ Ionizer
  • ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ช่วยให้การชาร์จ Smart Phone สะดวกและรวดเร็ว
  • ช่อง USB สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า/หลัง และสำหรับกล้องบันทึกภาพ
  • ช่องจ่ายไฟสำรอง 220V แบบพร้อมเต้ารับสายไฟ
TANK 300 (12)

สมรรถนะ

All New GWM TANK 300 สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะ TANK ที่ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ให้กำลังสูงสุด 244 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร เป็น flat torque ในช่วง 1700 – 4000 รอบต่อนาทีทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้าและแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตันเมตร ระบบเกียร์แบบ 9 สปีดที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริดรองรับการขับขี่ที่หลากหลายพร้อมโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 7 รูปแบบ อาทิ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมดพื้นหิมะ โหมดพื้นโคลน โหมดพื้นทรายและโหมด 4L

การออกแบบระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ดับเบิล ครอส อาร์มระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์และดิสก์เบรก แบบมีครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายเพื่อตอบสนองการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง เพื่อความต้องการของทุกสถานการณ์

รุ่นและสีรถยนต์

  • All New GWM TANK 300 มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น ULTRA และรุ่น PRO
  • สีรถภายนอก :   มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีส้ม ใหม่, สีดำ, สีเทา และสีขาว
  • สีรถภายใน :     สีดำ (ลักษณะของเบาะจะแตกต่างกันในรุ่น รุ่น ULTRA และรุ่น PRO)

แพลตฟอร์ม TANK

แพลตฟอร์มออฟโรดอัจฉริยะที่ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง วางใจได้ และชาญฉลาด อาทิ

  • รองรับระบบส่งกำลังได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ ICE, HEV และ PHEV รองรับได้ทั้งเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรและ 3.0 ลิตร
  • การออกแบบโดยรวมของโมดูลาร์ ให้ความยืดหยุ่นสูง รองรับระบบกันสะเทือนที่หลากหลายและความสามารถในการขยายขนาดเพื่อผลิตรถในขนาดที่แตกต่างกัน
  • การสร้างผลิตภัณฑ์ออฟโรดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถกำหนดค่าออฟโรดที่ครอบคลุม และระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะที่เชื่อถือได้

ระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบออฟโรด

All New GWM TANK 300 มีระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบออฟโรดอันชาญฉลาดและล้ำสมัย เพื่อให้ทุกการผจญภัยสนุกสนานและน่าจดจำ

  • ระบบล็อกเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง (Electric Differential Lock for front and rear axles) ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดของยานพาหนะเมื่อเผชิญกับทางลาดชัน โคลน ทะเลทราย และภูมิประเทศที่ซับซ้อนอื่น ๆ ด้วยกลไกการถ่ายโอนกำลัง ทำงานร่วมกันกับกลไกล็อกของกล่องถ่ายโอนทั้งล้อหน้าและล้อหลัง สร้างระบบขับเคลื่อนออฟโรดแบบ 3 Locks เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ออฟโรดที่ดีเยี่ยม
  • ระบบช่วยกลับรถในพื้นที่แคบ (TANK Turn) หลังจากเปิดฟังก์ชัน เมื่อระบบตรวจพบความตั้งใจในการบังคับเลี้ยวมากเกินไป ระบบจะส่งแรงเบรกไปที่ล้อหลังด้านในเพื่อลดรัศมีวงเลี้ยว เพื่อช่วยให้รถสามารถเลี้ยวในวงแคบได้
  • ระบบ 4WD อัจฉริยะเจเนอเรชั่นที่ 2 ด้วยการใช้ 4WD แบบเรียลไทม์อัจฉริยะ ระบบสามารถสลับโหมดได้ 3 โหมด ได้แก่ ขับเคลื่อนสองล้อ (2H สอดคล้องกับโหมดประหยัด) ขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ (AWD) และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อความเร็วต่ำ (4L)
  • Off-road Cruise Control เหมาะสำหรับถนนออฟโรดที่มีสภาพซับซ้อน หลังจากเปิดฟังก์ชันแล้ว ระบบจะควบคุมเครื่องยนต์และระบบเบรกโดยอัตโนมัติเพื่อให้รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำและความเร็วคงที่
  • Body Transparent ระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ ระบบจะจดจำข้อมูลภาพจากกล้องระหว่างการขับขี่ รวบรวมกับข้อมูลภาพของพื้นดิน เพื่อการแสดงภาพถนนแบบพาโนรามาด้านล่างและด้านหน้ารถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบสภาพใต้ท้องรถและหน้ารถ ยกระดับความปลอดภัยในการขับขี่
  • ยางล้อแบบ A/T รุ่น Ultra ติดตั้งยาง Continental Horse AT ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานต่อการสึกหรอและความต้านทานการเจาะทะลุของยางบนถนนลูกรัง

ฟังก์ชันอัจฉริยะ (Intelligent Functions)

  • การอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) ระบบดังกล่าวมาพร้อมกับความสามารถในการอัพเกรดเฟิร์มแวร์สำหรับการควบคุมระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ รวมถึงระบบ Infotainment และระบบควบคุมอื่นๆ ภายในรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย
  • การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) มีความสามารถในการจดจำเสียงได้เป็นอย่างดี จึงสามารถช่วยลดการใช้งานจากการกดปุ่ม เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ โดยผู้ขับขี่สามารถสั่งการและโต้ตอบด้วยเสียงเพื่อใช้งานฟังก์ชัั่นต่างๆ รวมไปถึงการเข้าถึงระบบเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ภายในรถ
  • GWM Application: ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและเชื่อมต่อฟังก์ชันของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อคและปลดล็อคประตู การค้นหาตำแหน่งรถยนต์ การปิดกระจก ปิดหลังคาซันรูฟ การควบคุมระบบการระบายความร้อนของเบาะ ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ และระบบตรวจสอบสถานะอื่นๆ

ระบบช่วยเหลือการขับขี่

All New GWM TANK 300 มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยให้คุณและครอบครัวเดินทางอย่างปลอดภัยไร้กังวล

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เป็นระบบควบคุมความเร็ว ที่ช่วยควบคุมรถให้ติดตามรถด้านหน้าหรือขับต่อไปด้วยความเร็วคงที่เพื่อลดภาระของผู้ขับขี่
  • ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) ใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเส้นบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถ และช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะทำการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง
  • ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบจะบันทึกเส้นทางและสามารถถอยหลังกลับได้ในระยะ 50 เมตรโดยอัตโนมัติ ในเส้นทางที่ถูกบันทึกไว้
  • กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัดระดับ Megapixel โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองของรถจากมุมบน ระบบทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลัง โดยสามารถดูได้เมื่อขับรถที่ความเร็วต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ช่วยตรวจจับรถยนต์ทั้งทางตรงและทางแยก เมื่อเสี่ยงต่อการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียงและการเบรกอัตโนมัติช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก
  • ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) เซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอด เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจรและ ส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียง หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
  • ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) โดยระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว ในระหว่างการแซง ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และกลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยแจ้งเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน
  • ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) โดยหากมีการตรวจสอบพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลนหนึ่ง ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน
  • ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM) โดยรถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
  • ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) ใช้เบรกเพื่อช่วยควบคุมความเร็วของรถขณะขับบนทางลาดชันเพื่อให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการบังคับพวงมาลัย
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) เมื่อออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูงชัน เบรกจะยังคงค้างอยู่ราว 2 วินาที จนกระทั่งคันเร่งทำงานเพื่อป้องกันการถอยหลัง
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) หลังจากจอดรถยนต์แล้ว ระบบจะแจ้งเตือนหากระบบตรวจพบเป้าหมายที่เสี่ยงต่อการชนหากเปิดประตูรถยนต์
  • ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) โดยรถจะทำการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดลดลง