ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจและยอมรับเทคโนโลยีนี้มากขึ้น จากสถิติพบว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า 100% (Battery Electric Vehicle: BEV) ในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2022 มียอดจดทะเบียนรวม 9,729 คัน และเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 2023 เป็น 76,314 คัน คิดเป็นการเติบโตถึง 684.4% อย่างไรก็ตาม ในปี 2024 ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้ากลับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 70,137 คัน ลดลง 8.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่เมื่อเปรียบเทียบกับยอดรถยนต์รถยนต์โดยรวมในตลาดของปี 2024 จะพบว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยนั้นตกลงมากถึง 26.2% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2023
แม้ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังมีความกังวลในหมู่ผู้บริโภคเกี่ยวกับความทนทานและอายุการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้า หลายคนยังคงสงสัยว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีความทนทานเทียบเท่ากับรถยนต์สันดาปภายในหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของแบตเตอรี่ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยล่าสุดได้ชี้ให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น โดยงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Energy ระบุว่า รถยนต์ไฟฟ้าสามารถมีอายุการใช้งานเฉลี่ยถึง 18.4 ปี ซึ่งใกล้เคียงกับรถยนต์เบนซินที่มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 18.7 ปี และมากกว่ารถยนต์ดีเซลที่มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 16.8 ปี โดยจากกราฟด้านล่างจะเห็นได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้า (เส้นสีเขียว) ในปี 2010 มีความทนทานที่ต่ำกว่ารถยนต์รถยนต์เบนซิน (เส้นสีน้ำเงิน) และรถยนต์ดีเซล (เส้นสีเหลือง) อย่างเห็นได้ชัด แต่สถิติในปี 2017 จะเห็นได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีความทนทานที่ใกล้เคียงกับรถยนต์สันดาปทั้ง 2 รูปแบบ
การศึกษาวิจัยนี้ เกิดขึ้นจากนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม (University of Birmingham) และโรงเรียนเศรษฐศาสตร์แห่งลอนดอน (LSE) ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากการทดสอบของกระทรวงคมนาคม (MOT) ที่ได้เก็บข้อมูลของรถยนต์กว่า 300 ล้านรายการในสหราชอาณาจักร ระหว่างปี 2005 ถึง 2022 ผลการวิจัยพบว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีการปรับปรุงด้านความน่าเชื่อถือได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยความน่าจะเป็นของความล้มเหลวของระบบลดลง 12% ทุกปี ซึ่งสูงกว่ารถยนต์เบนซินที่ลดลง 6.7% และรถยนต์ดีเซลที่ลดลงเพียง 1.9% เท่านั้น
นอกจากนี้ การวิจัยยังชี้ให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีโครงสร้างที่เรียบง่ายกว่า เนื่องจากมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่ารถยนต์สันดาปภายใน ทำให้มีโอกาสเกิดความเสียหายน้อยลง และด้วยการพัฒนาทางเทคโนโลยี แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถกักเก็บและจัดการพลังงานได้ดีกว่าเดิม และยังมีการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ที่ช้าลง ส่งผลให้อายุการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดย Robert Elliott ศาสตราจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์จาก University of Birmingham กล่าวเสริมว่า รถไฟฟ้า BEV มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อยุโรปเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น แม้ว่าในช่วงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จะมีปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงกว่ารถสันดาป แต่หากรถไฟฟ้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ก็จะสามารถชดเชยการสร้าง Carbon Footprint ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและยั่งยืนมากขึ้น
สรุปได้ว่า ผลการวิจัยล่าสุดได้ยืนยันว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนานเทียบเท่ากับรถยนต์สันดาปภายใน ซึ่งน่าจะช่วยลดความกังวลและส่งเสริมการยอมรับและการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในวงกว้างมากขึ้น ทั้งในประเทศไทยและในอีกหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก
อย่าลืมเข้ามาสัมผัสรถยนต์ของ Great Wall Motor ที่มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ และความสะดวกสบายเหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ ORA, รถยนต์เอสยูวีไฮบริดจากแบรนด์ HAVAL, เอสยูวีสายลุยจากแบรนด์ TANK รวมถึงรถกระบะระดับพรีเมียมจากแบรนด์ POER ได้แล้วที่ GWM Partner Store อมรรัชดา
ลงทะเบียนทดลองขับ คลิก !!
Location: GWM อมรรัชดา https://maps.app.goo.gl/k2yYTGz3881nZaK38?g_st=ic
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line : https://lin.ee/axnS7os (@gwmamornratchada)
โทร. 02 513 8000