GWM POER: กระบะพันธุ์แกร่งสัญชาติจีน ที่พร้อมท้าชนทุกความคาดหวัง

ภาพรวม

ในยุคที่ตลาดรถกระบะในประเทศไทยมีการแข่งขันสูง GWM หรือ Great Wall Motor ผู้ผลิตยักษ์ใหญ่จากจีนได้ส่งรถกระบะระดับพรีเมียมลงสู่สนามแข่งอย่างเป็นทางการในชื่อ GWM POER หรือ POER Sahar เพื่อเจาะตลาดสายลุยที่ให้ความสำคัญกับทั้งสมรรถนะ ความปลอดภัย และความหรูหรา

ชื่อ “POER” นั้นไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะย่อมาจากคำว่า Powerful, Off-road, Enjoyable, Reliable ซึ่งสะท้อนจุดเด่นทั้งในแง่พละกำลัง ความสามารถในการลุย ความสะดวกสบาย และความเชื่อถือได้ของตัวรถ

การออกแบบภายนอก: แข็งแกร่งแต่หรูหรา

GWM POER มาพร้อมดีไซน์ที่ผสานระหว่างความบึกบึนและความหรูหรา ตัวถังออกแบบให้ดูดุดันด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ลายโครเมียม หรือดำด้าน (แล้วแต่รุ่น) พร้อมไฟหน้า LED ทรงทันสมัย ไฟ DRL และเส้นสายตัวถังที่สะท้อนถึงความเป็นกระบะสายลุยของแท้

มิติของรถอยู่ในระดับเดียวกับรถกระบะฟูลไซซ์ เช่น Toyota Hilux Revo หรือ Ford Ranger โดยให้ความรู้สึกมั่นคงและโดดเด่นบนท้องถนน

ภายในห้องโดยสาร: SUV ในร่างกระบะ

สิ่งที่ทำให้ POER แตกต่างจากกระบะทั่วไปคือการออกแบบภายในที่ใกล้เคียงกับ SUV ระดับพรีเมียม เบาะหนังปรับไฟฟ้า จอสัมผัสขนาดใหญ่ ระบบแสดงข้อมูลผู้ขับขี่แบบดิจิทัล และวัสดุตกแต่งที่ให้ความรู้สึกหรูหราเกินหน้ารถกระบะทั่วไป

พื้นที่ภายในกว้างขวาง โดยเฉพาะเบาะหลังที่ให้พื้นที่วางขาอย่างเหลือเฟือ เหมาะทั้งกับการใช้งานในเมืองและเดินทางไกล

ขุมพลัง: พร้อมลุยทุกเส้นทาง

POER มีทางเลือกขุมพลังหลากหลาย ขึ้นอยู่กับตลาดที่ทำการจำหน่าย โดยในไทย (จากรุ่นที่เปิดตัวในปี 2024-2025) มาพร้อมเครื่องยนต์หลัก 2 แบบ:

🔧 เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ

• กำลังสูงสุดประมาณ 163–190 แรงม้า

• แรงบิดสูงสุด 400–450 นิวตันเมตร

• เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด หรือธรรมดา 6 สปีด

• ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมโหมดการขับขี่แบบออฟโรด (4L, 4H, 2H) และระบบล็อกเฟืองท้าย

⚡ (ในอนาคต) เครื่องยนต์ไฮบริดหรือไฟฟ้า (ยังไม่เปิดตัวในไทย)

เทคโนโลยีและความปลอดภัย

POER ถูกจัดเต็มด้วยระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันและช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง เช่น

• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)

• ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW)

• ระบบเตือนรถในจุดอับสายตา (BSD)

• ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน (ACC)

• กล้อง 360 องศา

• ถุงลมนิรภัย 6 จุด

ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่รถกระบะทั่วไปมักจะไม่ให้ในรุ่นมาตรฐาน

ความคุ้มค่า

GWM ตั้งราคา POER ให้แข่งขันได้ โดยรุ่นที่คาดว่าจะวางขายในไทยจะเริ่มต้นราว 7-9 แสนบาท สำหรับรุ่นขับสอง และอาจเกิน 1 ล้านบาท สำหรับรุ่นขับสี่พร้อมเทคโนโลยีจัดเต็ม

ด้วยการรับประกันยาวนาน บริการหลังการขายที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วในไทย และความตั้งใจของ GWM ในการเจาะตลาดอย่างจริงจัง POER จึงเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง

สรุป: POER ไม่ใช่แค่ “กระบะจีน”

GWM POER ไม่ใช่แค่ “รถกระบะจากจีน” ธรรมดาอีกต่อไป แต่เป็นรถกระบะระดับพรีเมียมที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ญี่ปุ่นหรืออเมริกันได้อย่างสูสี ทั้งในด้านดีไซน์ สมรรถนะ และเทคโนโลยี

หากคุณกำลังมองหารถกระบะที่ไม่ใช่แค่ใช้งานบรรทุกของ แต่ต้องการความสบาย ความปลอดภัย และความทันสมัย GWM POER คือชื่อที่ควรใส่ไว้ในลิสต์พิจารณา