ปัญหาด้านมลพิษ ความผันผวนของราคาน้ำมัน และสภาพอากาศที่แปรปรวนเป็นปัจจัยเร่งให้รัฐบาลหลายประเทศหันมารณรงค์และส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV)?แทนที่รถเครื่องยนต์สันดาป (ICE)?กันมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นเทรนด์ที่มาแรงและน่าจับตามอง รวมถึงเป็นแรงหนุนให้ฝั่งผู้ผลิตยานยนต์ต่างเร่งพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมอันทันสมัย เพื่อรองรับความต้องการการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะเห็นได้ว่า ในประเทศไทยเฉพาะปี?2566?เพียงปีเดียว ก็สามารถทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศไปได้กว่า?77,684?คัน ซึ่งเติบโตจากปีก่อนหน้าถึง?555%
ด้วยแนวโน้มของผู้บริโภคที่หันมาที่ตัวเลือกรถยนต์ไฟฟ้ากันมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ค่ายรถยนต์หลายแห่งจึงได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันทันสมัย ทั้งภายนอกและภายในรถยนต์เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่ง?Ecosystem?ของรถยนต์ไฟฟ้าในไทยปัจจุบันมีความคืบหน้าอะไรที่ผู้บริโภคควรรู้ ไปดูกัน
ประสิทธิภาพแบตเตอรี่
หนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญหลักที่อยู่เบื้องหลังขุมพลังของรถยนต์ไฟฟ้านั่นก็คือ แบตเตอรี่ที่เป็นขุมพลังหลักเช่นเดียวกับน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์สันดาป ข้อมูลจาก?Krungthai Compass?ระบุว่า ระยะทางการขับขี่ที่ไกลขึ้นเป็นปัจจัยที่ช่วยให้คนตัดสินใจปรับเปลี่ยนมาใช้รถยนต์เครื่องยนต์ไฟฟ้า 100% (Battery Electric Vehicle: BEV)?กันมากขึ้น โดยข้อมูลจาก?International Energy Agency (IEA)?ยังระบุว่า ในปี 2560 รถยนต์?BEV?มีระยะทางขับขี่โดยเฉลี่ยต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง อยู่ที่ 243 กิโลเมตร และในปี 2561 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 280 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง จนถึงปี 2565 วิ่งได้ระยะทางเฉลี่ยเพิ่มเป็น 395 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หรือเพิ่มขึ้นกว่า 41% โดยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนนั้น มีการใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 42% เนื่องจากสามารถเก็บประจุไฟฟ้า (Energy Density)?ได้มาก อยู่ที่ราว 50-260?Wh/kg?จ่ายไฟได้เสถียร มีอายุการใช้งานนานกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น โดยสามารถรองรับเทคโนโลยี?Fast Charge?ส่วนใหญ่นั้นวิ่งได้ประมาณ 300-400 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
แน่นอนว่าในปัจจุบัน ด้านของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเองก็ยังคงมีการพัฒนานวัตกรรมกักเก็บพลังงานอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยสโฟวล์ท เอเนอจี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ในเครือ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ล่าสุดได้นำผลิตภัณฑ์แรกคือ?ชุดแบตเตอรี่?SVOLT LCPT?ออกจากสายการผลิตของโรงงานผลิตแบตเตอรี่?SVOLT Energy Module Pack?ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยเป็นชุดแบตเตอรี่ลิเธียม ไออน ฟอสเฟตมีความจุพลังงาน?60?กิโลวัตต์-ชั่วโมง ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนได้มากกว่า?500?กิโลเมตร มีต้นทุนการผลิตต่ำ แต่มีประสิทธิภาพการใช้งานสูงและให้กำลังไฟฟ้าที่มาก ถือเป็นตัวเลือกที่เพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทยในเซ็กเมนต์รถยนต์ส่วนบุคคลขนาดเล็ก (A Segment)?โดยตั้งแต่มีนาคมปีนี้เป็นต้นไป สโฟวล์ท ได้วางแผนที่จะเริ่มใช้แบตเตอรี่ชุดประกอบในไทยกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น?New GWM ORA Good Cat?ที่เพิ่งมีการเปิดตัวและประกาศราคาออกจากสายการผลิตในประเทศไทยเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา
นอกจากเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้น ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผันผวนยังส่งผลให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์คันใหม่ และพิจารณารถยนต์ไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เนื่องจากค่าพลังงานของรถยนต์ไฟฟ้าต่อกิโลเมตร มีราคาถูกกว่ารถยนต์สันดาปถึง?4?เท่า เช่น หากปกติรถเครื่องยนต์สันดาปมีค่าน้ำมันเดือนละ?4,000?บาท เมื่อใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดเท่ากัน เราจะเสียค่าไฟฟ้าเพียงเดือนละไม่ถึง?1,000?บาทเท่านั้นในกรณีที่ชาร์จที่บ้านเป็นหลัก
ความคืบหน้าของสถานีชาร์จ
ข้อมูลจากสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย?(EVAT)?พบว่า ณ วันที่?30?กันยายน?2566?จำนวนสถานีชาร์จ?EV?ในไทย อยู่ที่?2,222?แห่ง โดยเป็นจุดชาร์จ?EV?แบบกระแสสลับ?(AC)?ทั้งสิ้น?4,806?หัวจ่าย แบบกระแสตรง ประเภท?DC CCS2 3,540?หัวจ่าย และแบบกระแสตรงประเภท?DC CHAdeMO 356?หัวจ่าย รวมทั้งสิ้น?8,702?หัวจ่าย (ไม่รวมสถานีชาร์จสาธารณะที่ให้บริการลูกค้าเฉพาะกลุ่ม) ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาใกล้เคียงกันของปี?2565?ณ วันที่?20?กันยายน?2565?ประเทศไทยมีจำนวนหัวจ่ายรวมเพียง?2,572?หัวจ่าย โดยแบ่งเป็น แบบกระแสสลับ?(AC) 1,384?หัวจ่าย แบบกระแสตรง ประเภท?DC CCS2 942?หัวจ่าย และแบบกระแสตรงประเภท?DC CHAdeMO 246?หัวจ่าย จากสถานีชาร์จเพียง?869 แห่ง จะเห็นได้ว่าในช่วงระยะเวลาเพียงหนึ่งปี ประเทศไทยมีจำนวนสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นถึง?1,353?สถานี และมีจำนวนหัวจ่ายเพิ่มขึ้นถึง?6,130?หัวจ่าย จากปีที่ผ่านมา ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของหัวจ่ายประเภท?DC CCS2?ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง?2,598?หัวจ่าย หรือคิดเป็นการเติบโต?354%?และในปัจจุบันเราได้เห็นทั้งการร่วมมือของภาครัฐและเอกชนในการร่วมกันวางโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งของรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อตอบรับกระแสการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นให้ประชาชนไทยสามารถเข้าถึงได้อย่างครอบคลุม
โดยทางฝั่งของภาครัฐ กรมธุรกิจพลังงานมีแผนกำหนดกรอบการให้บริการติดตั้งสถานีชาร์จ?EV?และการลงนาม?MOU?กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ในปัจจุบันก็ยังได้เห็นการร่วมมือของภาคเอกชนในการขยายสถานีชาร์จ กระจายความทั่วถึงให้กับผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ด้าน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะหนึ่งในผู้เล่นของยานยนต์พลังงานใหม่ตระหนักถึงความต้องการเหล่านี้ พร้อมมุ่งมั่นในการขยายสถานีชาร์จเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ชาวไทย ได้มีการลงนามความร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในการขยายและพัฒนาระบบของสถานีชาร์จให้ครอบคลุม รวมถึงได้มีการรวบรวมสถานที่ตั้งสถานีชาร์จทั่วประเทศเข้ามาอยู่ใน?GWM application?เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าชาวไทยอีกด้วย โดยจนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ขยายการให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบเร็ว (DC Fast Charge)?รวมทั้งสิ้น?24?แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น?17 จังหวัด ไม่ว่าจะเป็น สมุทรปราการ ปทุมธานี เชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก สระบุรี อุบลราชธานี นครราชสีมา ระยอง ชลบุรี จันทบุรี กระบี่ สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต โดยบริษัทฯ มีแผนการดำเนินงานขยายเพิ่มอีกให้ครบ?71?สถานีชาร์จ ภายในปี?2567
สถานการณ์ความพร้อมของฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
จากกระแสความนิยมทำให้ค่ายรถหลายรายเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย โดยเฉพาะแบรนด์ผู้ผลิตจากจีนที่ถือเป็นผู้บุกเบิกยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า ล่าสุด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เปิดสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า?New GWM ORA Good Cat?จากโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จังหวัดระยอง โดยการเปิดสายการผลิตภายในประเทศนี้ ถือเป็นครั้งแรกของไทยที่มีการผลิตเพื่อจัดจำหน่ายจำนวนมาก (Mass Production)?ตอบรับนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าจากภาครัฐ
ในปี?2567?นี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีแผนที่ต้องผลิตชดเชยตามมาตรการ?EV 3.0?จำนวนประมาณ?15,000?คันภายในปี?2568?โดยตั้งเป้าหมายว่าจะผลิตประมาณ?8,000?คันในปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพิ่มอัตราจ้างงาน พร้อมฝึกอบรม พัฒนาทักษะการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านเทคนิคการผลิตรถยนต์?EV?ให้กับพนักงานชาวไทยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งโรงงาน?GWM Smart Factory?แห่งนี้ถือเป็นโรงงานผลิตแบบเต็มรูปแบบแห่งที่สอง นอกประเทศจีนของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ และได้ผ่านการรับรอง มาตรฐานสากล?ISO 9001?14001?และ?45001?เรียบร้อยแล้ว จึงเชื่อมั่นได้ว่ารถที่ผลิตจากโรงงานแห่งนี้ได้คุณภาพภายใต้กระบวนการผลิตที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่จะเป็นผู้นำด้านยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (xEV Leader)?พร้อมเดินหน้าส่งมอบรถยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ควบคู่กับส่งมอบความสะดวกสบาย ไร้กังวล และสร้างความประทับใจตลอดการเดินทางถืงมือลูกค้าชาวไทยทุกคน