เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง จับมือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการเชื่อมโยงแพลตฟอร์มระบบโครงข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า ระหว่าง OR และ GWM เพื่อร่วมศึกษาและพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเชื่อมโยงระบบโครงข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Roaming) ในสถานีชาร์จ EV Station PluZ
พิธีลงนามดังกล่าว จัดขึ้น ณ GWM Experience Center ไอคอน สยาม โดยมี นายไมเคิล ฉง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) และ นายวิศน สุนทราจารย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร และความยั่งยืน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ร่วมให้เกียรติลงนามร่วมกัน
นายไมเคิล ฉง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ?ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของเกรท วอลล์ มอเตอร์ เรายังคงยึดมั่นในกลยุทธ์หลัก 3 ประการ ได้แก่ การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า การรับฟังเสียงของผู้บริโภค และการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าของเรา เราจึงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมโดยให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของผู้บริโภค ทำให้แบรนด์และผลิตภัณฑ์ของเราก้าวขึ้นสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยอีกหนึ่งพันธกิจสำคัญของเกรท วอลล์ มอเตอร์ คือการพัฒนาและสร้างระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ จึงมีแผนขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ได้ 55 แห่ง ภายในปี 2022 นี้ ภายใต้ชื่อแพลตฟอร์ม G-Charge โดยจะแบ่งเป็นภายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 70% และต่างจังหวัด 30% ซึ่งสถานีชาร์จทั้งหมดของบริษัทจะติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ DC Fast Charge กำลังสูง เริ่มต้นที่ 120 kW และมีรูปแบบหัวชาร์จแบบ CCS2 อีกทั้งยังมุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรด้วย GWM Application? พร้อมฟังก์ชั่นการค้นหาสถานี นำทาง การจอง และชำระเงิน ใน App เดียว โดย G-Charge และ GWM Application จะเป็นแพลตฟอร์มการให้บริการผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจรและทันสมัยมากที่สุดแพลตฟอร์มหนึ่งในประเทศไทย เราได้มีการรวบรวมสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่มีอยู่ในประเทศมากกว่า 500 แห่ง มาอยู่ในแผนที่การชาร์จใน GWM app ครอบคลุมสถานีชาร์จสาธารณะของไทยมากกว่า 55% และตั้งเป้ารวบรวมสถานีชาร์จให้ครอบคลุม 80% ภายในปีนี้ ความร่วมมือในการเชื่อมโยงแพลตฟอร์มระบบโครงข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า? ระหว่าง GWM และ OR ในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของแผนพัฒนาเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้พัฒนาแพลตฟอร์มในอีกหลายๆมิติร่วมกับ OR เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับกลุ่มลูกค้า และที่สำคัญที่สุด เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้เติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและเป็นรูปธรรม?
นายวิศน สุนทราจารย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร และความยั่งยืน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) กล่าวว่า ?จากแนวโน้มการเติบโตของรถไฟฟ้าในประเทศไทยที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง OR พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถไฟฟ้า (EV) ในทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้สอดคล้องวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ที่สนใจรถไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น ความร่วมมือกับ GWM ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในครั้งนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถไฟฟ้าของ GWM ที่เข้ามาใช้งานในสถานีชาร์จ EV Station PluZ ผ่านการใช้งานแอปพลิเคชั่น EV Station PluZ ของ OR หรือ GWM Application ด้วยการเชื่อมโยงแพลตฟอร์มบริหารจัดการระบบของทั้ง OR และ GWM เข้าด้วยกัน เพื่อค้นหาสถานีชาร์จ EV Station PluZ จองเข้าใช้บริการ ชำระเงินออนไลน์ และตรวจสอบประวัติการใช้งาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าของทั้ง GWM และ OR ให้ได้รับบริการที่เป็นเลิศ สำหรับการใช้งานข้ามเครือข่าย (Roaming) ที่เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ (Seamless) ผ่านเครือข่ายสถานีชาร์จ EV Station PluZ ทั้งในและนอกสถานีบริการ PTT Station ซึ่งมีเป้าหมายที่จะขยายให้ครบ 450 แห่งภายในปี 2565 และ? 7,000 แห่งภายในปี 2573 (ค.ศ. 2030) ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นไปตามพันธกิจของ OR ในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจพลังงานแบบผสมผสานเพื่อการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อเพื่อตอบโจทย์คนเดินทางทุกรูปแบบ (Seamless Mobility) เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) อย่างครบวงจรต่อไปในอนาคต?
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ ?บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก?? (Global Intelligent Technology Company) จะยังคงมุ่งมั่นรับฟังเสียงผู้บริโภค เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการยึดถือผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมตอบโจทย์ทุกความต้องการ และเคียงข้างเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคม เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเศรษฐกิจไทยให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน