6 ความเชื่อผิดๆ ที่จะทำให้รถของคุณโทรมไวกว่าที่คิด

หลายคนคงคิดว่าการดูแลรถยนต์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เข้าศูนย์บริการตามกำหนด และเติมน้ำมันก็เพียงพอแล้ว แต่ความจริงคือการดูแลรถยนต์นั้นมีรายละเอียดมากมาย และหลาย ๆ คนก็มีความเชื่อที่ผิด ๆ เกี่ยวกับการดูแลรถยนต์อาจส่งผลให้รถโทรมไวขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้น บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ 6 ความเชื่อผิด ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้รถของคุณอยู่ในสภาพดีและใช้งานได้ยาวนานขึ้น

1. เช็ดรถทุกวัน

การเช็ดรถให้สะอาดทุกวันอาจดูเหมือนเป็นการดูแลที่ดี แต่ความจริงแล้ว การใช้ผ้าเช็ดรถบ่อยเกินไปหรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสมสามารถทำให้รถเกิดรอยขนแมวได้ การใช้ผ้าธรรมดาเช็ดฝุ่นบนผิวรถอาจทำให้ฝุ่นเหล่านั้นเป็นเหมือนกระดาษทรายขนาดเล็กที่ขูดขีดสีรถ จึงแนะนำให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์และน้ำยาสำหรับเช็ดรถประจำวันโดยเฉพาะ และเช็ดเมื่อจำเป็นเท่านั้น การล้างรถที่ถูกวิธีไม่เพียงแต่ทำให้รถสะอาดขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยถนอมสีรถให้อยู่ในสภาพดีได้นานขึ้นด้วย

2. ละเลยการทำความสะอาดภายใน

หลายคนใส่ใจกับการทำความสะอาดภายนอกของรถมากกว่าภายใน ทั้งที่ความสะอาดภายในรถก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าภายนอก โดยเฉพาะในจุดที่มีฝุ่นสะสมหรือต้องสัมผัสบ่อยๆ เช่น พวงมาลัย แผงคอนโซล และเบาะนั่ง การละเลยการทำความสะอาดภายในจะทำให้เกิดฝุ่นสะสมซึ่งอาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคและทำให้บรรยากาศในรถไม่สดชื่น นอกจากนี้ ฝุ่นและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ภายในอาจทำให้วัสดุในห้องโดยสารเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร รวมถึงฝุ่นเหล่านี้ยังจะเข้าไปอุดตันในระบบเครื่องปรับอากาศของตัวรถอีกด้วย การทำความสะอาดภายในรถเป็นประจำไม่เพียงช่วยรักษาสภาพภายในให้ดูใหม่ ยังช่วยให้การขับขี่รู้สึกสบายและลดโอกาสในการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ด้วย

3. ไม่ตรวจเช็กลมยางอย่างสม่ำเสมอ

ลมยางเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม และมักจะละเลยการตรวจเช็กลมยางอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งอาจทำให้รถของคุณเกิดความเสียหายได้ ลมยางที่น้อยหรือมากจนเกินไป จะส่งผลต่อสมรรถนะและความปลอดภัยในการขับขี่ และยังทำให้ยางสึกหรอเร็วกว่าปกติ ลมยางที่ไม่เหมาะสมจะเพิ่มการสึกหรอให้กับยาง ทำให้ต้องเปลี่ยนยางเร็วกว่าที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการควบคุมรถและอัตราการใช้น้ำมันอีกด้วย เราขอแนะนำให้ตรวจเช็กลมยางทุกสองสัปดาห์หรือก่อนการเดินทางไกล เพื่อให้แน่ใจว่ารถของคุณจะวิ่งได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย

4. การใช้เกียร์ผิดวิธี

การขับรถด้วยการใช้เกียร์ไม่เหมาะสม เช่น การเปลี่ยนเกียร์บ่อยครั้งในขณะที่รถยังไม่หยุดนิ่ง อาจทำให้ชิ้นส่วนในระบบเกียร์สึกหรอเร็วขึ้น การเปลี่ยนเกียร์หรือเลือกใช้เกียร์ที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ระบบเกียร์และเครื่องยนต์ต้องทำงานหนักและเสี่ยงต่อการเสียหาย เราขอแนะนำให้ใช้เกียร์ตามความเร็วที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการเร่งความเร็วหรือเบรกในขณะที่ใช้เกียร์อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง สำหรับรถเกียร์อัตโนมัติ การเปลี่ยนจากเกียร์ D ไป N หรือเปลี่ยนจากเกียร์ N หรือ P ไปยังเกียร์ D ในขณะที่รถยังไม่หยุดนิ่งอาจทำให้ระบบเกียร์สึกหรอเร็วขึ้น

5. การละเลยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา

น้ำมันเครื่องเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยหล่อลื่นเครื่องยนต์ การละเลยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนดจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นและเกิดการสึกหรอเร็วกว่าเดิม น้ำมันเครื่องที่เสื่อมคุณภาพจะทำให้ระบบหล่อลื่นไม่ดี ส่งผลให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป และอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ แนะนำให้ตรวจเช็กและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนดเวลาและระยะทางที่แนะนำในคู่มือของรถ

6. จอดรถตากแดดเป็นประจำ

แสงแดดและความร้อนสามารถเร่งการเสื่อมสภาพของสีรถ ทำให้สีซีดจางและหมดความเงางามได้เร็วกว่าที่ควร รวมถึงยางรถยนต์และซีลยางต่าง ๆ ที่จะเสื่อมสภาพไวขึ้นเช่นกัน ชิ้นส่วนภายในห้องโดยสาร เช่น เบาะหนังและวัสดุพลาสติก ก็เสี่ยงต่อการแตกหรือเสื่อมสภาพจากความร้อน นอกจากนี้ ฟิล์มกรองแสงยังอาจเสื่อมประสิทธิภาพเร็วกว่าเวลาอันควร

อย่าลืมเข้ามาสัมผัสรถยนต์ของ Great Wall Motor ที่มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ และความสะดวกสบายเหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ ORA, รถยนต์เอสยูวีไฮบริดจากแบรนด์ HAVAL, เอสยูวีสายลุยจากแบรนด์ TANK รวมถึงรถกระบะระดับพรีเมียมจากแบรนด์ POER ได้แล้วที่ GWM Partner Store อมรรัชดา

ลงทะเบียนทดลองขับ คลิก !!
Location: GWM อมรรัชดา https://maps.app.goo.gl/k2yYTGz3881nZaK38?g_st=ic

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line : https://lin.ee/axnS7os (@gwmamornratchada)
โทร. 02 513 8000