หลังจากที่ทาง Great Wall Motor ประเทศไทย ได้นำรถเอสยูวีหน้าหล่อสุดเท่อย่าง TANK 300 มาอวดโฉมภายในงาน Bangkok International Motor Show 2023 ซึ่งจัดขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และได้มีการยืนยันว่า พวกเขาจะนำรถรุ่นนี้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างแน่นอน
ล่าสุดมีข่าวลือออกมาอย่างหน้าหูว่า TANK 300 จะมีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ โดยหลายๆคนต่างคาดการณ์กันว่า รถรุ่นนี้จะมีราคาขายอยู่ที่ราวๆ 1,400,000 – 1,700,000 บาท (ราคาที่แน่ชัด จะประกาศในวันเปิดตัว) ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหมัดเด็ดจาก Great Wall Motor ประเทศไทย เพราะตั้งใจนำรถรุ่นนี้เข้ามาตีตลาดเอสยูวี ซึ่งมีผู้เล่นอยู่มากพอสมควรในเรทราคานี้ เรามาดูกันว่า TANK 300 จะมีจุดเด่นอะไรบ้าง เมื่อเปรียบเทียบกับรถที่ทำตลาดใน Segment และมีราคาที่ใกล้เคียงกัน
หมายเหตุ : ราคาอย่างเป็นทางการ จะมีการประกาศอีกครั้งในวันที่ 28 กันยายนนี้
สำหรับท่านที่สนใจ TANK 300 ออฟโร้ด เอสยูวี หน้าหล่อ ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก !!
Location: GWM อมรรัชดา https://maps.app.goo.gl/k2yYTGz3881nZaK38?g_st=ic
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line : https://lin.ee/axnS7os (@gwmamornratchada) โทร. 02 513 8000

ดีไซน์ โดดเด่น มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ดีไซน์ของ TANK 300 นั้นดูโดดเด่น ไม่เหมือนใคร สร้างความประทับใจและเป็นเป้าสายตาของผู้คนที่ได้เห็นรถรุ่นนี้ ด้วยตัวถังแบบทรงกล่อง 4 เหลี่ยม พร้อมด้วยชุดไฟหน้าทรงกลมที่ฝั่งอยู่ด้านในกระจังหน้าสีดำ เสริมด้วยซุ้มล้อสีดำด้านและที่เก็บยางอะไหล่บริเวณฝาท้าย ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ความดุดันในแบบฉบับของรถ Off Road
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบไฮบริด แรงที่สุดในคลาส
ขุมพลังของ TANK 300 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมด้วยระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวมสูงสุดที่ 304 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ได้ในเวลา 7.9 วินาที
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full Time พร้อมฟังก์ชั่น Diff-Lock ใช้งานในรูปแบบ Off Road ได้เต็มประสิทธิภาพ
ระบบขับเคลื่อนของรถรุ่นนี้ รับรองว่าถูกใจสายลุยอย่างแน่นอน เพราะจะได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการปีนป่าย รวมถึงใช้งานในสภาพดินโคลนได้อย่างดีเยี่ยม เสริมด้วยฟังก์ชั่น Diff-Lock ซึ่งจะช่วยให้การขับขี่แบบ Off Road นั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังมีโหมดการขับขี่แบบ Off Road ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถก้าวผ่านอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย